ประคบร้อน VS ประคบเย็น

ประคบร้อน VS ประคบเย็น

       หนึ่งในอาการเจ็บป่วยยอดฮิตที่พบได้ในทุกเพศทุกวัย จะแข็งแรงหรืออ่อนแอก็ต้องเคยประสบพบเจออย่างน้อยสักครั้งในชีวิต ก็คืออาการเจ็บปวดบริเวณกล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อ หรือกระดูก ไม่ว่าจะเกิดจาก อุบัติเหตุ, การออกกำลังกาย, การทำงาน หรือความผิดปกติที่เกิดขึ้นตามอายุ ซึ่งการรักษาอาการปวดโดยทั่วไปก็จะเป็นการกินยา กายภาพบำบัด หรือที่ฮอตฮิตอีกอย่างก็คือ การประคบร้อน/เย็น 

       ซึ่งการประคบร้อนเย็นนี่แหละที่บางคนยังใช้ผิดๆถูกๆอยู่ ซึ่งการที่ใช้ผิดอาจทำให้อาการไม่หาย หายยากมากขึ้นหรือเป็นหนักมากขึ้นได้อีกด้วย วันนี้เราก็จะมาทำความเข้าใจกันครับว่า การประคบร้อน ประคบเย็นเนี่ย แบบไหนเหมาะสำหรับอาการอะไรกันบ้าง

การประคบร้อน

• ใช้เมื่อมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดประจำเดือน หรืออาการปวดที่เป็นแบบปวดเรื้อรัง 
• ช่วยให้เส้นเลือดขยายตัว เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังบริเวณที่ได้รับความเสียหาย ส่งผลเสริมการรักษาหรือการฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่ได้รับการบาดเจ็บให้หายได้เร็วมากขึ้น และยังมีฤทธิ์ช่วยคลายกล้ามเนื้อทำให้มีผลลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหรืออาการปวดประจำเดือนได้
• การประคบร้อนในกรณีที่กล้ามเนื้ออักเสบ หรือมีอาการบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อ แนะนำให้ประคบหลังหายบวมแล้ว หรือประมาณ 48-72 ชม. หลังได้รับบาดเจ็บ
• ระวังการประคบร้อนในผู้ป่วยที่มีอาการบวมอักเสบอยู่ หรือมี เลือดออกเนื่องจากอาจทำให้อาการบวมอักเสบเป็นมากขึ้น เลือดหยุดไหลยากขึ้น และต้องระวังในผู้ป่วยมีอาการอักเสบที่เส้นประสาท เช่นในผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากผู้ป้วยกลุ่มนี้อาจสูญเสียการรับรู้ความรู้สึกไปบางส่วน จึงอาจทำให้เกิดอันตรายจากการได้รับความร้อนเช่นเกิด แผลลวก พุพองบริเวณผิวหนัง เป็นต้น 

การประคบเย็น

• ใช้เมื่อมีอาการบวม ฟกช้ำ อักเสบ มีอาการปวดเฉียบพลัน หรือ เลือดกำเดาไหล ผิวหนังโดนของร้อน เป็นต้น 

• การประคบเย็นจะช่วยหดหลอดเลือด ทำให้มีการดูดสารน้ำเข้าสู่หลอดเลือดมากขึ้น ทำให้เลือดออกลดลง และสามารถมารถลดอาการปวด บวม ฟกช้ำ จากการอักเสบได้
• การประคบเย็นในกรณีที่กล้ามเนื้อปวด บวม อักเสบ หรือมีอาการบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อ แนะนำให้ประคบได้เลยทันทีหลังเกิดอาการ เนื่องจากจะทำให้อาการปวด บวม ฟกช้ำ ลดลงได้เร็วมากขึ้น
• ระวังการประคบเย็นในผู้ป่วยที่ไวต่อความเย็น เช่นมีอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งตอนสัมผัสความเย็น หรือโดนความเย็นแล้วเป็นผื่นแพ้ เป็นต้น

       หากท่านใดมีข้อสงสัย หรือมีข้อสอบถามเพิ่มเติมสามารถทักมาสอบถามได้ที่ “แอปพลิเคชันร้านยากรุงเทพ” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง นะครับ

บทความโดย ภก.ภูริวัจน์ เลิศเดชธนะศักดิ์

References

• https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/infographic/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B9%87%E0%B8%99-%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87/
• https://www.khonkaenram.com/th/services/health-information/health-articles/pt/cold-hot-pack
• Image Ref: https://www.freepik.com/free-photo/sick-unhealthy-woman-with-short-hair-warm-scarf-hat-feeling-unwell-holding-water-bottle-kep-warm-standing-green-background_12203185.htm#fromView=search&page=3&position=0&uuid=dd79cc38-0415-4e1a-b5c5-d5fb7a0ea4f4